กราฟ gdp ประเทศไทย ย้อน หลัง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
บทความเขียนโดย
วันนี้ผมอยากจะเขียนวิเคราะห์กราฟหุ้นไทย ย้อนหลังกลับไปสัก 10 ปี แต่คิดไปคิดมาแล้วย้อนไปจนถึงตลาดเริ่มก่อตั้งเลยก็แล้วกันครับ เพื่อที่นักลงทุนจะได้ทราบถึงความเป็นมาเป็นไปของตลาดหุ้นไทย
ในปี พ.ศ. 2515 รัฐบาลได้เข้ามาแก้ไข “ประกาศคณะปฏิวัติ ที่ 58 เกี่ยวกับการควบคุมธุรกิจ การค้า ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชน” การแก้ไขดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลสามารถกำกับดูแล การดำเนินงานของบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระเบียบและยุติธรรม หลังจาก นั้นในปี พ.ศ. 2517 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจะจัดให้มีแหล่งกลางสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์และการระดมเงินทุนในประเทศ ตามมาด้วยการแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับรายได้เพื่อให้สามารถนำเงินออมมาลงทุนในตลาดทุนได้ ในปี พ.ศ. 2518 รูปแบบทางกฎหมายต่างๆได้รับการปรับแก้จนลงตัว และในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (ชื่อภาษาอังกฤษในขณะนั้นคือ The Securities Exchange of Thailand) ได้เปิดทำการซื้อขายขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก และได้ทำการเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น “The Stock Exchange of Thailand” (SET) เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534
หากดูจากประวัติแล้วตลาดหุ้นไทยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2518 หรือปี 1987 นั่นเอง
ภาพด้านล่างเป็นกราฟหุ้นไทยย้อนหลังไปเมื่อก่อตั้ง (ข้อมูลมาจาก Settrade Steamming) ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องหรือไม่ในปีแรกๆ เนื่องจากตอนนั้นระบบจัดเก็บข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน เพราะจากสถิติดัชนีลงไปถึง 78 จุด ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่เราสามารถดูภาพรวมของดัชนีหุ้นได้จากกราฟนี้
กราฟข้างต้นแต่ละแท่งคือหนึ่งเดือน ในบางช่วงเวลา ตลอดระยะเวลาสามเดือน จะมีการปรับตัวลดลงของตลาดอย่างรวดเร็ว แต่หากท่านสังเกตุการปรับตัวขึ้นจะค่อยๆ ปรับขึ้นอย่างช้าๆ นี่คือ ธรรมชาติของตลาดหุ้น ทุกตลาดทั่วโลกเป็นแบบนี้หมด ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปี 1994 ขึ้นไปถึง 1753 จุด ก่อนที่จะมีการประกาศลดค่าเงินบาท เป็นการจุดชนวนการถล่มลงของตลาดหุ้นไทยในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นตลอดระยะเวลาหลายปีหุ้นไทยลดลงจาก 1753 จุด จนถึงระดับ 200 กว่าจุด เหมือนก่อตั้งตลาดหุ้นไทยใหม่อีกครั้ง ดังรูปด้านล่างนี้ ในช่วงนี้จะเริ่มมีนักลงทุนทั้งหมดใหม่หน้าเก่าที่เข้าไปสะสมหุ้น และได้กลายเป็นเศรษฐีในยุคปัจจุบัน
ตลาดหุ้นไทยซึมอยู่หลายปีจนถึงปี 2003 เมื่อตลาดเริ่มกลับมาสู่ขาขึ้นอย่างเต็มตัว และขึ้นไปแตะระดับ 600 จุด ทำให้หุ้นไทยเริ่มกลับมาเทรดและลงทุนกันใหม่อีกครั้ง ประสบการณ์เมื่อปี 40 ทำให้ตลาดหุ้นกลายเป็นหายนะ และหลายต่อหลายคนหันหลังให้ตลาดหุ้น หากจะว่าไปก็จะเป็นคนที่อายุมากกว่า 40 ปีในยุคปัจจุบันนี้ที่อาจจะได้รับภาพร้ายๆ ของตลาดหุ้นในยุคนัั้นจนทำให้ไม่อยากจะไปเสี่ยง
เมื่อปี 2009 หุ้นไทยได้ปรับลดลงไปเหลือประมาณ 400 จุด นั่นเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนอีกครั้ง เพราะหลักจากนั้นแล้วตลอดหลายปีหุ้นไทยวิ่งหน้าตั้งปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 1600 จุด ในช่วงปลายปี 2013 ทำให้มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นในตลาดหุุ้นไทยมากมาย
และภาพด้านล่างคือภาพดัชนี ณ ปัจจุบัน ปิดที่ 1697 จุด ณ เดือน ธ.ค. 60 ใกล้จะเข้าไปแตะระดับสูงสุดเดิมคือ 1753 จุดเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่อย่าลืมว่าวันนั้นกับวันนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไม่ได้ร้ายแรงแบบสมัยนั้น นั่นจะไม่ทำให้ตลาดหุ้นไทยพังทลายลงอย่างแน่นอน
คำถามคือ แล้วมันจะไปต่อได้ไหม จะไปได้ถึงเท่าไหร่ คงต้องรอลุ้นกันต่อไปครับ ขอให้นักลงทุนทุกคนอย่าประมาทและมีสติกับการลงทุนตลอดเวลาครับ
ในวันนี้ผมจะขอนำเอาข้อมูลทางสถิติมาให้เพื่อเป็นความรู้กับนักลงทุน ได้เห็นถึงผลตอบแทนและระดับดัชนีต่างๆ ในแต่ละปี เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาเป็นไปอย่างละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนต่อไปครับ
ระดับของดัชนีในปีต่างๆ
เราจะพบความผันผวนของตลาดหุ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจลดน้อยลงไป
ปี
ปิดที่ระดับ
เปลี่ยนแปลง
30 -04-2518
100.00
–
2518
84.08
– 15.92 %.
2519
87.70
+ 4.31 %
2520
181.59
+ 112.76 %
2521
257.73
+ 41.93 %
2522
149.40
– 42.03%
2523
106.62
– 16.55 %
2524
106.62
– 14.48 %
2525
123.50
+ 15.83 %
2526
134.47
+ 8.88 %
2527
142.29
+ 5.82 %
2528
134.95
+ 5.82 %
2529
207.20
+ 53.54 %
2530
284.94
+ 37.52 %
2531
386.73
+ 35.72 %
2532
879.19
+ 127.34 %
2533
612.86
– 30.29 %
2534
711.36
+ 16.07 %
2535
893.42
+ 25.59 %
2536
1,682.85
+ 88.36 %
2537
1,360.09
– 19.18 %
2538
1,280.81
– 5.83 %
2539
831.57
– 35.07 %
2540
372.69
– 55.18 %
2541
355.81
– 4.53 %
2542
481.92
+ 35.44 %
2543
269.19
– 44.14 %
2544
303.85
+ 12.88 %
2545
356.48
+ 18.64 %
2546
772.15
+ 116.60 %
2547
668.10
– 13.48 %
2548
713.73
+ 6.83 %
2549
679.84
– 4.75 %
2550
858.10
+ 26.22 %
2551
449.96
– 47.94 %
2552
734.54
+ 38.74 %
2553
1,032.76
+ 40.60 %
2554
1,025.32
– 0.72 %
2555
1,391.93
+ 35.76 %
2556
1,298.71
– 6.70 %
2557
1,497.67
+ 15.32 %
2558
1294.84
– 13.54 %
2559
1,542.94
+ 19.16 %
2560
ผลตอบแทนในแต่ละปีของหุ้นไทย
เราจะพบว่าแต่ละปีหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนได้ไม่น้อย และมีแต่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี นั่นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงสนใจลงทุนในตลาดหุ้น เพราะหากเทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนอื่นๆ แล้ว หุ้นมีผลตอบแทนที่น่าสนใจมากในแต่ละปี
ปี
ผลตอบแทน
2540
-52.7
2541
-4.5
2542
35.5
2543
-44.1
2544
12.9
2545
17.3
2546
116.6
2547
-13.5
2548
6.8
2549
-4.8
2550
26.2
2551
-47.5
2552
63.3
2553
40.5
2554
-0.7
2555
35.8
2556
-6.7
2557
15.3
NỘI DUNG BÀI VIẾT
แค่ 100,000 ก็ลงทุนต่างประเทศ ผลตอบแทนคาดหวัง 4-8% ความเสี่ยงต่ำได้ กับกองทุนส่วนบุคคล Global ETF
Global ETF คือ กองทุนส่วนบุคคลสำหรับทุกคนที่ต้องการลงทุนระยะยาวแบบกระจายความเสี่ยงทั่วโลก ทุกอุตสาหกรรม บริหารจัดการอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี เริ่มต้นลงทุนเพียง 100,000 บาท พร้อมสร้างผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 48% ต่อปี ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jitta Wealth เพื่อเปิดบัญชีที่นี่ https://bit.ly/2EcJaw7
Jitta Wealth ยึดมั่นในหลักการลงทุนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลตอบแทนยั่งยืนในระยะยาว และ Global ETF ก็นำทฤษฎีรางวัลโนเบล Modern Portfolio Theory มาประยุกต์ให้เป็นระบบลงทุนอัตโนมัติ เพื่อให้ทุกคนมีพอร์ตลงทุนต่างประเทศที่สร้างผลตอบแทนได้ตามคาดหวังในความผันผวนที่ต่ำที่สุด
แผนการลงทุนของ Global ETF จะแบ่งออกเป็น 3 แผนใหญ่ๆ ได้แก่ แผนเติบโต แผนสมดุล แผนพอเพียง แต่ละแผนจะให้ผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงแตกต่างกัน นักลงทุนสามารถเลือกแผนที่เหมาะกับตนเองที่สุดเพื่อลงทุนได้
โดยหัวใจของการบริหารจัดการแบบ Global ETF มี 4 ข้อ นั่นคือ
1) ลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ได้แก่ หุ้นและพันธบัตร
2) เลือก ETF เป็นตัวแทนสินทรัพย์ทั้งสอง
3) จัดสัดส่วนสินทรัพย์ทั้งสองให้สร้างผลตอบแทนสูงที่สุดในความเสี่ยงต่ำที่สุด
4) ดูแลปรับพอร์ตแบบอัตโนมัติ
Global ETF ไม่คิดค่าธรรมเนียมตามกำไร (performance fee) มีเพียงค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ 0.5% ต่อปี และค่าใช้จ่ายตามจริงที่เรียกเก็บโดยผู้ให้บริการ เช่น โบรกเกอร์ ผู้รักษาสินทรัพย์ เป็นต้น
ดูข้อมูลกองทุนส่วนบุคคล Global ETF เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3iL3q78
อย่าลืม! กด SUBSCRIBE เพื่ออัปเดตความรู้การลงทุนแนวเน้นคุณค่าแบบ passive จาก Jitta
และติดตามข่าวสารจากเราได้อีกหลากหลายช่องทาง
► สนใจลงทุน Jitta Wealth: https://bit.ly/2UxsWTI
► ศึกษาการลงทุนช่วงวิกฤต: https://bit.ly/3bCHpTP
► ค้นหาหุ้นดีราคาถูกที่ Jitta: https://www.jitta.com
► ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jitta: http://bit.ly/2R9EIBI
► FB Jitta: https://www.facebook.com/jitta.th
► FB Jitta Wealth: https://www.facebook.com/jittawealth
► FB Passive Way: https://www.facebook.com/investpassiveway
► Twitter: https://twitter.com/jittaworld
Jitta เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบริหารจัดการความมั่งคั่งระยะยาวหรือ WealthTech ของไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก มีเป้าหมายหลักคือ ปลดล็อกความรู้ เครื่องมือ และบริการทางการเงินที่มีคุณภาพ ให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในชีวิตตามหลักการที่ถูกต้องได้อย่างเท่าเทียมกัน ผ่าน 2 บริการหลัก ได้แก่ แพลตฟอร์ม Jitta ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและมูลค่าของธุรกิจ เพื่อช่วยนักลงทุนค้นหา “บริษัทที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม” ตามแนวทาง ลงทุนแบบเน้นคุณค่า (value investing) ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ และกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่บริหารจัดการเงินให้นักลงทุนด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ ตามหลักการลงทุนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด สตาร์ทอัพแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต. ให้บริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎหมาย
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
MT4 การเพิ่มข้อมูล History Center เพิ่มดูข้อมูลกราฟย้อนหลัง
MT4 การเพิ่มข้อมูล History Center เพิ่มดูข้อมูลกราฟย้อนหลัง
เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
ดาวโหลดข้อมูล https://www.histdata.com/downloadfreeforexdata/?/metatrader/1minutebarquotes
กราฟแท่งเทียนบอกอะไรเราได้บ้าง และ เราสามารถทำความเข้าใจสิ่งที่กราฟบอกเราได้อย่างไร
KTAM Daily Strategy 20 ต.ค. 64
KTAM Daily Strategy 20 ต.ค. 64
🔹สรุปข่าวในประเทศ และต่างประเทศ
🔹คำแนะนำโดยนักกลยุทธ์การลงทุน
🔹 กองทุนที่น่าจับตามอง
ฟังย้อนหลังได้ทาง
Podbean
https://ktamdailynews.podbean.com
Spotify
https://spoti.fi/3mbbUH9
ซื้อกองทุนผ่าน KTAM Smart Trade
IOS : http://bit.ly/smarttradeios
Android : http://bit.ly/smarttradeandroid
บทวิเคราะห์รายวันฉบับเต็ม
https://www.ktam.co.th/articlefund.aspx
บทวิเคราะห์รายสัปดาห์ฉบับเต็ม
http://bit.ly/KTAMWeekly
ร่วมติดตามเนื้อหาการเงินการลงทุน
ทั้งบทความและวิดีโอดีๆจาก KTAM ได้ที่
Website https://bit.ly/2TCdbre
Facebook https://bit.ly/2C6urxv
Youtube https://bit.ly/2LYtPyz
Twitter https://bit.ly/2TzV98V
line https://lin.ee/hz6k8G6
IG https://bit.ly/2TuB0RI
Podbeam http://bit.ly/3fajE78
Spotify https://spoti.fi/3mbbUH9
Clubhouse https://bit.ly/3cRFGNO
Blockdid https://bit.ly/2W0yzgb
ติดต่อเราได้ที่
โทร 026866100 กด 9
Email callcenter@ktam.co.th
แจ้งปัญหาการใช้งานได้ที่
https://www.ktam.co.th/contactus.aspx
เปิดพอร์ตเซียนหุ้นสายซิ่ง \”บอย ท่าพระจันทร์\”
ถอดบทเรียนการลงทุนในตลาดหุ้นของ เซียนพระชื่อดัง \”บอย ท่าพระจันทร์\” หรือ อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย จากทุนเริ่มต้น 30ล้านบาท ด้วยสไตล์การลงทุนสายซิ่งภายใน 7 ปี พอร์ตทะลุ 700800ล้านบาท หุ้นอะไรที่พลิกชีวิตขาขึ้นและขาลง?
สามารถติดตามข่าวสารจาก Money Chat จากช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
Facebook
:https://www.facebook.com/moneychatthailand
Youtube
:https://www.youtube.com/moneychatthailand
Podcasts
:moneychat
รายการเปิดจอรอเทรด
ออกอากาศทางช่อง NEW18 ทุกวันจันทร์ ศุกร์ เวลา 10.0010.30น.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กราฟ gdp ประเทศไทย ย้อน หลัง